10 วิธีง่ายๆ ดูรถมือสองก่อนซื้อ

1. เลือกมองหารถที่เหมาะสมกับความต้องการ รูปแบบการใช้งาน ลักษณะรถ และยี่ห้อ
2. พิจารณางบประมาณด้านการเงิน ความสามารถผ่อนชำระรายเดือน ค่าน้ำมันรายเดือน ค่าประกันภัย ภาษีต่อทะเบียน ค่าซ่อมบำรุงรักษา และค่าอะไหล่ ซึ่งรถแต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายดูแลที่แตกต่างกัน
3. เลขไมล์บนแผงหน้าปัด โดยเฉลี่ยรถยนต์ใช้งานปกติ วิ่งประมาณ 20,000-25,000 กม.ต่อ ปี
4. ดูสมุดประวัติการเข้ารับบริการ การบำรุงรักษารถยนต์จากศูนย์บริการ
5. ตรวจดูสภาพภายนอกรถยนต์ เช่น “สีของรถ” ต้องดูกลางแจ้ง ที่มีแสงสว่างเพียงพอ จะช่วยให้เห็นร่องรอยได้ชัดเจน สีที่ดีจะต้องมีพื้นผิวบาง เรียบ เนียน เป็นเงางาม และให้ดู “เส้นสายของตัวถัง” จะต้องคมและชัดเจน
6. สังเกตร่องรอยการทำสีมาใหม่ โดยดูจาก "แนวตะเข็บขอบต่างๆ" ถ้ามองเห็นสีเป็นรอยเยิ้ม เอามือลูบพบรอยสากจากละอองสี มีรอยคราบจากเทปกาว แสดงว่ารถคันนั้นผ่านการทำสี
7. สังเกตที่ “นอตยืด” ถ้าหัวนอต มีรอยถลอก เยิน ไม่เรียบ แสดงว่ามีการถอดนอตเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ หรือถอดมาทำสี เช่น นอตยึดกันชน นอตยึดแก้มหน้า นอตยึดบานพับประตู
8. เปิดฝากระโปงหน้าดูสภาพเครื่องยนต์ ต้องไม่มีรอยคราบน้ำมันเครื่องยนต์รั่วซึม ไหลเยิ้ม หรือรอยคราบน้ำมันเป็นสีคล้ำๆ จุดสังเกตดูที่หน้าเครื่อง ท้ายเครื่องเกียร์
9. ทดลองขับจริง ขั้นแรก “ขึ้นไปนั่งบนรถ” ให้สำรวจอุปกรณ์รอบด้าน ว่าสามารถใช้งานได้ครบ แล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์ ลองเร่งเครื่องสักสองสามครั้ง เครื่องยนต์ปกติจะต้องทำงานราบเรียบ นิ่มนวล ไม่มีอาการสะดุด ขั้นถัดไป “ออกไปลองขับจริง” สังเกตขณะเข้าหรือเปลี่ยนเกียร์ จะต้องไม่มีอาการกระตุก กระชาก หรือเสียงกุกกัก
10. สำหรับรถที่โดนน้ำท่วม สภาพทั่วไปอาจมีกลิ่นเหม็นอับชื้นบริเวณเบาะ แผงข้าง สังเกตตามซอกมุมต่างๆอาจมีเศษดินโคลนแห้งติด